ก่อนซื้อเครื่องน้ำสเลอปี้ หรือเกล็ดหิมะ ต้องเข้าใจหลักการทำงานก่อนนะครับ เดี่ยวจะพลาดเอาได้ ^^
ผมขอให้ลูกเลือกจากปัจจัยหลักๆดังต่อไปนี้นะครับผม ผมจะของกล่าวขยายความเป็นทีละหัวข้อนะครับผม
· ระบบทำความเย็นของตัวเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ
· ความทนทานของวัสดุต่างๆของตัวเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ
· ฟังชั่นก์ของเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ
· จำนวนโถ และความจุของโถของเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ
· ระบบแจ้งเตือนต่างๆ ที่ค่อยช่วยเหลือในการใช้งาน
ระบบทำความเย็นของตัวเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ
อย่างที่ผมเคยกล่าวไปในบทความหลักการในการทำงานเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ คือน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะ นั้นเกิดจากการทำความเย็นสะสม แล้วใช้ใบปั่นขูดเกล็ดน้ำแข็งให้กลายเป็นน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะ ดังนั้นความเร็วของการทำความเย็น และความทนทานของคอมเพลสเซอร์ในการฉีดความเย็นจึงเป็นหัวใจหลักในการเลือกเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ แล้วจะดูได้อย่างไรละผมจะอธิบายให้ฟังครับ
ความเร็วในการฉีดความเย็นนั้น สำหรับทางเทคนิคช่างแล้วเราจะดูแรงม้าของคอมเพลสเซอร์ที่ใช้งานกับเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ นั้นๆ ว่ามีแรงม้ามากก็ฉีดความเย็นได้เร็ว น้อยก็ฉีดความเย็นได้ช้าซึ่ง ดูยากมากครับและส่วนใหญ่ก็จะไม่เปิดเผยเท่าไร สำหรับผมแล้วผมแนะนำดูระยะเวลาในการปั่นให้เกิดเป็นน้ำสเลอปี้ หรือปั่นเกล็ดหิมะ ครับถ้าเร็วๆ ก็ประมาณ 30 - 40 นาที ถ้ากลางก็ราวๆ 40-60 นาที ครับ ซึ่งปัจจัยนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับน้ำที่เราจะใช้ปั่นด้วยนะครับ ถ้าให้ดีสุดคือการไปทดลองกับเครื่องจริงๆครับ อันนี้ดีสุด และควรทำมากๆครับ เราจะได้เห็นประสิทธิภาพ และเนื้อที่ออกมาด้วยครับ
ความทนทานของระบบฉีดความเย็น
ผมขอแนะแนวทางดูง่ายๆครับ เครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ มีการใช้คอมเพลสเซอร์หลายเกรด หลายยี่ห้อ ซึ่งผมจะพูดรวมๆคือให้ดูประเทศผู้ผลิต และยี่ห้อของคอมเพลสเซอร์ของเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะที่เราจะซื้อครับ โดยมากจะใช้คือ จีน ญี่ปุ่น ยุโรปหรืออิตาลี ซึ่งราคาจะลดลั่นกันไปตามลำดับนะครับ ผมขอแนะนำจากประสบการณ์ของผมอย่าใช้คอมเพลสเซอร์จากจีนนะครับ ไม่ค่อยทนครับ ถ้าดีๆเลยก็คือ ยุโรปหรืออิตาลีเพราะทนทานกว่ามากครับ ซึ่งตรงจุดนี้ต้องเช็คนะครับ ห้ามพลาด เปิดเครื่องดูได้ยิ่งดีครับ ถ้าผู้ขายไม่บอกยิ่งต้องเช็คครับ เพราะเป็นหัวใจหลักของเครื่องของการทนทานของเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะเลยครับ (ผมขอเพิ่มเติ่มอีกนิดนะครับ ถ้าจะเช็คให้ลึกขึ้นควรจะเลือกท่อที่นำความเย็นเป็นทองแดงนะครับ ไม่แนะนำเป็นอลูมิเนียม เพราะไม่ทนและซ่อมแซมยากมากครับผม)
ความทนทานของวัสดุต่างๆของตัวเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ
เครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะนั้นจะมีส่วนที่สำคัญคือ
· แกนปั่น มีหน้าที่ปั่นน้ำและขูดเกล็ดน้ำแข็งที่เกิดขึ้นในช่องปั่น ดังนั้นแกนปั่นต้องทำจากวัสดุที่หนา แข็งแรง และยืดหยุ่น ผมขอแนะนำวัสดุจำพวกพลาสติกผสมไนลอนครับจะทำให้ใบปั่นเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะแข็งแรง และหยืดยุ่นครับ
· โถใส่น้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะ จะมีหน้าที่รองรับน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะ ที่ปั่นอยู่ภายในโถ จะมีตั้งแต่ 1-3 โถแล้วแต่รุ่นเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ ที่ลูกค้าซื้อมา ซึ่งส่วนนี้เราจะต้องถอดล้างแถบทุกวันหรือทุกสัปดาห์ และตัวโถจะมีเขี้ยวไว้ยดตัวโถกับตัวเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะดังนั้นต้องเลือกโถที่มีความหนา และมีตัวเขี้ยวยึดที่แข็งแรงไม่เช่นนั้นตอนถอดเข้าออกเพื่อล้างนั้นโถจะแตก หรือที่สำคัญตัวเขี่ยวยึดจะหักได้ง่ายครับ
· ลูกยางหรือโอริงต่างๆ มีหน้าที่ป้องกันน้ำที่อยู่ระหว่างรอยต่อของโถปั่น และเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ ไม่ให้มีน้ำรั่วในส่วนรอยต่อแต่ละส่วนดังนั้นการเลือกลูกยางหรือโอริงของเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะนั้นจะต้องมีความหนา ยืดหยุ่น และต้องมีการทดลองประกอบแล้วต้องแน่นไม่หลวม ไม่เช่นนั้นใช้ไปอีกสักพักจะทำให้น้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะ รั่วออกมาจากตัวเครื่องได้ครับ
· คันโยกหัวจ่ายน้ำเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ มีหน้าที่คือโยกเพื่อจ่ายน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะ ออกมาจะมีการโยกทุกครั้งที่ขาย ดังนั้นวัสดุนี้ควรเป็นวัสดุที่แข็งแรง โดยเฉพาะความหนาของช่องเสียบแกนหมุนที่อยู่ตรงกลางด้ามคันโยก และปลายคันโยกที่มีลักษณะเป็น 2 ง้าม ต้องต่อกับตัว Pin ของตัวเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ เพราะเป็นส่วนที่หักง่ายมาก
ฟังชั่นก์ของเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ
เครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ มีหลายฟังชั่นก์ให้ลูกค้าได้เลือกใช้ครับยิ่งมีเยอะก็จะยิ่งราคาสูงตามไปด้วย ผมขอแนะนำฟังชั่นก์หลักๆที่จำเป็นแล้วกันนะครับผม
· ระบบแยกการปั่นทำความเย็นอิสระของโถเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ คือระบบที่จะช่วยให้เราไม่ต้องปั่นน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะ ทั้ง 2 หรือ 3 โถพร้อมกันตลอดเวลา ทำให้เราสะดวก คือถ้าวันนี้อยากปั่นเพียง 1 หรือ 2 โถก็ทำได้ หรือน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะ โถใดโถนึงหมดเราก็สามารถหยุดได้ไม่ต้องเติม ฟังชั่นก์นี้ควรจะมีและสำคัญมากๆนะครับ เพราะเราไม่รู้ว่าน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะ จะหมดเม่ือไรซ่ึงส่วนใหญ่แล้วจะหมดไม่พร้อมกัน ถ้าเป็นช่วงเวลาใกล้ทำการปิดการขายก็ทำให้การเติมใหม่นั้นน่าเสียดายครับ
· ระบบทำน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะ และน้ำเย็น ระบบนี้คือทำให้เลือกได้ว่าวันนี้จะทำแค่น้ำเย็นกดขายหรือจะปั่นเป็นน้ำเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ สามารถสร้างลูกเล่นในการขายได้
· ระบบ Over night หรือการทำความเย็นข้ามคืน ระบบนี้คือระบบที่จะช่วยให้ไม่ต้องทำการล้างเครื่องในทุกวัน โดยเครื่องจะทำความเย็นให้กับน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะ ข้ามคืนเพื่อให้น้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะไม่เสีย ก็จะทำให้เราสะดวกมากขึ้น
· ระบบแยกกาทำงานของการทำความเย็น และใบปั่น ระบบนี้คือระบบที่จะสั่งเครื่องว่าจะให้ทำความเย็นอย่างเดี่ยวหรือจะให้ปั่นอย่างเดี่ยว หรือจะให้ทำทั้ง 2 อย่างพร้อมกัน จะสะดวกในการทำการละลายน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะ เวลาที่เราล้างและเก็บเครื่องครับ
· ระบบไฟส่องน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะ ระบบนี้ก็คือมีหลอดไฟอยู่ที่ฝาของโถปั่นทำให้น้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะ ดูโดดเด่นเวลาขายมากขึ้นโดยเฉพาะช่วงเย็นหรือกลางคืน
· ระบบการปั่นด้วยมอเตอร์ตรง หรือ มอเตอร์พร้อมเกียร์ ระบบนี้คือระบบของการปั่นที่สำคัญครับเพราะถ้าระบบที่มีเกียร์จะทำให้มีแรงปั่นที่มากกว่าครับ ทำให้เราปั่นเครื่องดื่มได้หลากหลายขึ้น เช่น นม หรือม็อคเทล ค็อกเทล (น้ำที่มีความหวานน้อย) เพราะระบบเกียร์จะขูดน้ำแข็งได้ดีกว่าแบบมอเตอร์ตรงครับ พร้อมลดปัญหาใบปั่นติดได้ด้วครับ ฟังชั่นก์นี้ผมแนะนำนะครับผม
จำนวนโถ และความจุของโถของเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ
เครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะนั้นมีหลายโถให้เลือกนะครับส่วนใหญ่ที่นิยมก็ 1-3 โถครับผม ซึ่งการในแต่ละโถก็จะมีปริมาตรที่จุน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะได้ตั้งแต่ 10-15 ลิตร ซึ่งสิ่งเหล่านี้สำคัญมากนะครับเพราะหมายถึงกำลังการผลิต และจำนวนรสชาติที่ลูกค้าจะสามารถเสิร์ฟน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะได้ต่อ 1 รอบการผลิตครับก็คือประมาณ 40-60 นาทีครับ ดังนั้นเราจะต้องดูครับว่าเราจะเสิร์ฟน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะกี่รสชาติ ขนาดแก้วที่เราจะเสิร์ฟขนาดเท่าไร และในช่วงเวลาที่เราขายดีนั้นเราคิดว่าจะขายน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะได้ประมาณกี่แก้วครับ ผมขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพกันนะครับ
เช่นเราจะเสิร์ฟน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะในแก้ว 3 ขนาด ด้วยกันคือ 12 ออนซ์ ,14 ออนซ์ และ 16 ออนซ์ ซึ่งผมขอแนะนำครับว่าเวลาคำนวณกำลังการผลิตจะต้องคำนวณที่แก้วใหญ่สุดในตัวอย่างนี้คือ 16 ออนซ์ ซึ่งเท่ากับ 480 มิลลิลิตร ดังนั้นถ้าเราซื้อเครื่องที่มีความจุของโถเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ 12 ลิตร เราใส่น้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะ 11 ลิตร รวมการฝูของน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะอีก 1 ลิตร เราจะได้ปริมาตรน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะที่จะเสิร์ฟได้ 12 ลิตร หรือ 12,000 มิลลิลิตร เท่ากับว่าต่อ 1 ครั้งที่ปั่นเราจะเสิร์ฟน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะได้โถละ 12,000/480 = 25 แก้ว/โถ ต่อ 40-60 นาที ดังนั้นก็มาประมาณช่วงการขายดีๆกันครับเช่น
· ช่วงเวลาการขายดีที่สุดในห้างสรรพสินค้า หรือตลาดนัด แต่ละช่วงน่าจะขายได้ดีกี่แก้วต่อชม. เช่น 40 แก้ว เราก็ต้องซื้อเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะที่มี 2 โถเป็นต้น
· ช่วงเวลาเที่ยงขายดีที่สุดของโรงเรียน และย่านออฟฟิต ขายดีต่อชม.อยู่ที่ 60 แก้ว เราก็ต้องเลือกซื้อเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ 3 โถ เป็นต้น
แต่ในอีกแง้นึงก็คือรสชาติน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะที่ขายดีหรือเป็นรสชาติเป้าหมายครับ ถ้ามองแล้วรสชาติที่ขายดี 1 รส เราอาจจะต้องเลือกซื้อเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ 3 โถแล้วปั่นน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะ 2 โถ ส่วนอีก 1 รสก็ปั่นอีกโถเป็นทางเลือกครับผม
เราจะเห็นได้ว่ามันจะมีเรื่องจำนวนที่เสิร์ฟน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะได้ต่อรอบ และจำนวนรสชาติที่จะขายต่อวันอยู่ด้วย ดังนั้นผมแนะนำนะครับควรจะเลือกซื้อเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ ตั้งแต่ 2 โถขึ้นไปครับ เอาแบบที่ปั่นแยกโถได้อิสระนะครับจะดีมากครับ
ระบบแจ้งเตือนต่างๆ ที่ค่อยช่วยเหลือในการใช้งาน
ระบบเตือนต่างๆของระบบแจ้งเตือนต่างๆ ที่ค่อยช่วยเหลือในการใช้งานจะมีหน้าที่คอยป้องกันไม่ให้เราใช้งานเครื่องผิดพลาดครับ ทำให้เครื่องเราไม่เสียหายครับ ผมขอแนะนำ 2 ระบบหลักๆที่ควรจะมีนะครับ
· ระบบวัดไฟของเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ อันนี้เน้นย้ำว่าต้องมีไม่มีไม่ได้ครับ เพราะเครื่องพวกนี้เป็นเครื่องทำความเย็นที่ใช้งานหนักครับ ถ้าไปใช้ในที่ไฟไม่พอหรือไฟตกจะทำให้ความเย็น เย็นช้าและมีผลต่อคอมเพลสเซอร์ของเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะเสียได้ครับ งานหนักมากๆเลยครับ
· ระบบวัดน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะ จะเป็นส่วนที่บอกครับว่าควรจะเติมน้ำสเลอปี้ หรือน้ำปั่นเกล็ดหิมะ หรือยังถ้าไม่มีระบบนี้เราขายจนหมดถังจะทำให้อากาศไปโดนความเย็นของช่องทำความเย็นแล้วเกิดลิ้มหรือก้อนน้ำแข็งได้ครับทำให้ใบปั่นติด ถ้าเป็นบ่อยๆมอเตอร์และเกียร์ของเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะ จะเสียเอาได้ครับงานใหญ่อีกเช่นกันครับผม
ทั้งหมดนี้เป็นส่วนที่ผมสรุปวิธีเลือกเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะให้นะครับ สามารถใช้หลักการนี้ในการเลือกเครื่องสเลอปี้ หรือเครื่องปั่นเกล็ดหิมะได้เบื้องต้นนะครับ สำหรับผู้สนใจสามารถปรึกษากับเราได้นะครับผม